<< บทความทั้งหมด

โรคสะเก็ดเงิน ไม่หาย หาย หายสนิท หรือ หายขาด

      หากใครรู้จักผมคงทราบว่า ปีนี้ ผม อายุ เลย 55 แล้ว เป็นแพทย์ มาตั้งแต่อายุ 24 เท่ากับว่าเป็นมากว่า 31 ปีสำหรับโรคสะเก็ดเงินผมเห็นตั้งแต่ เป็นนักศึกษาแพทย์ มีโอกาสได้เป็นเจ้าของไข้และรักษาเองตั้งแต่เมื่อผมจบใหม่ๆ คือ อายุ 25 ปี หลังจากนั้นไปเรียนวิชาผิวหนังที่อเมริกา ตั้งแต่ปี 1984 ( อายุ 27ปี) ได้รักษาคนไข้ที่เป็นสะเก็ดเงินทั้งตัวรุนแรงขนาดต้องนอนในรพ.ชื่อ Mr. Gillaspy จำได้ว่าผมทำให้เขาดูเหมือนหาย หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ดีใจมาก บอกอาจารย์ท่านตอบว่าดีใจด้วยที่ทำให้เขาหายได้

หลังจากนั้นไม่นานก็พบเขาอีก รุนแรงเหมือนเดิมเข้าออก โรงพยาบาลเป็นครูให้แพทย์ทุกรุ่นที่กำลังเรียนโรคผิวหนังที่ U of Cincinnati ได้ลองรักษาเหมือนที่ผมทำ การรักษาตอนนั้น ( กว่า 30ปี มาแล้ว) ก็ไม่ต่างกับการรักษาในปัจจุบัน คือ ยาทาสเตียรอยด์ ยากินพวก Metrotrexate และอื่นๆ กับ การฉายแสงอาทิตย์เทียม (ยังจำได้ว่าอาจารย์นพ. วิชิต ลีนุตพงษ์ จากศิริราช) ก็ไปเรียนที่เยอรมัน เจอกันตอนเราไปเสนอผลงานวิชาการที่ washington DC. (ที่จำได้เพราะผมเลี้ยงข้าวกลางวันท่าน) ท่านสนใจเรื่อง แสงอาทิตย์เทียมนี่แหละ ส่วนผมสนใจเรื่อง ภูมิคุ้มกันกับโรคด่างขาว   สรุปคือ ถ้าท่านที่กำลังเรียนผิวหนังหรือรักษาโรคสะเก็ดเงินแบบที่ทำๆกันอยู่ ให้ทราบว่า เขาทำกันมานานแล้ว และผมก็เบื่อกับมันมาก

เมื่อกลับมาประเทศไทยเลยไม่ค่อยจะสนใจกับการรักษาสะเก็ดเงินมากนัก เพราะ หากใช้สเตียรอยด์ ยากินต่างๆ และแสงอาทิตย์เทียม คำตอบนั้ผมทราบมากว่า 30ปีแล้วว่าไม่ได้ผลอะไร ได้แต่บรรเทา และเมื่ออาการกลับมาอีกจะรุนแรงกว่า เดิม สำหรับ Mr. Gillaspy ผมจำได้ว่าตอนผมเป็น Resident 3 เขาต้องมานอนรพ. อีกแล้วเกิดแก้ผ้าเดินอาละวาดไปทั้ง ward เพราะเกิด stearoid psychosis แพทย์รุ่นน้องที่เป็นฝรั่งต้องตามให้ผมไปช่วย เลยจำได้เพราะเห็นแก้ผ้าเดินโทงๆ หัวเราะเหมือนคนบ้า น่าสงสาร (คราวนี้คงเข้าใจกันแล้วว่าทำไมผมเกลียด สเตียรอยด์)

      เมื่อนีตนาทคลินิกมี Vbeam เมื่อประมาณ 9 ปีมาแล้ว ( ปี 2003) เลเซอร์เครื่องนี้สามารถรักษาปัญหาเส้นเลือดต่างๆได้ รวมทั้งเรานำมารักษาการติดสเตียรอยด์ในการรักษาสิวฝ้า ทำให้ผมหวนระลึกถึงแพทย์ที่เก่งมากท่านหนึ่งได้ ผมไม่เคยพบตัวได้แต่อ่านผลงานวิชาการของท่าน ท่านชื่อ Professor Irwin Braverman ทำงานอยู่ที่ แผนกผิวหนัง ของ Yale University ระหว่างที่ผมเรียนเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ท่านเป็นคนแรกๆ ที่ให้ข้อสังเกตว่า โรคสะเก็ดเงินอาจจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับ เส้นเลือด เมื่อผมมี Vbeam และลองติดตามผลงานที่เกี่ยวกับการซ่อมแซม เส้นเลือดด้วย Vbeam laser ก็พบว่าสามารถทำให้สะเก็ดเงินหายได้ (ปี 1996) จึงลองใช้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว (2003) ก็พบว่า หายได้จริงหากเริ่มแต่แรกๆ แต่ในกรณีที่เป็นมากๆ ก็ยากมาก เมื่อมีเครื่อง eximer laser ในปี 2011 คือ หลังจากได้ใช้ Vbeam ตัวเดียวในการรักษามากว่า 8 ปี จึงนำมาประกอบกันเพื่อรักษาก็พบว่าได้ผลดียิ่งๆขึ้น สามารถทำให้หายได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก และ สามารถถอนยาสเตียรอยดืที่คนไข้ใช้อยู่ได้ดีขึ้นไปอีก ( Vbeam กับ Excimer จึงถูกยกระดับเป็นเครื่องเลเซอร์ มาตรฐานที่แพทย์ผิวหนังทุกคนต้องใช้

ฉะนั้น เมื่ออ่านบทความนี้ท่านคงไม่แปลกใจว่าทำไม นีตนาทถึงซื้อและสะสม เครื่อง Vbeam มากมาย ซึ่งดูเหมือนเกินความจำเป็น)
      ณ ปัจจุบัน โรคสะเก็ดเงินจึงเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ ไม่จำเป็นต้องทนอยู่กับสภาพที่ทรงกับทรุด แน่นอนว่าหลังจากหายแล้ว คนไข้จะกลัมาเป็นอีก แต่เป็นน้อยกว่าเดิมมาก คือ อาจจะเพียง 20 % ของรอยเดิม และมักจะเกิดเป็นรอยเล็กๆในที่เดิม ที่ทราบว่าเป็นที่เดิม เพราะรอยที่หายจากการทำ excimer เลเซอร์จะมีรอยคล้ำ หรือ หากมีการใช้ Vbeam ก็อาจจะตรงกันข้ามคือ สีผิวจางกว่าเดิม คนไข้จะเปลี่ยนกระบวนการคิดที่มีต่อ โรคสะเก็ดเงิน และ คิดว่า มันสามารถควบคุมได้จริง และเมื่อเกิดก็เป็นเพียงรอยเล็กๆในที่เดิม จึงรีบกลับมารักษา ซึ่งจะหายไปเร็วกว่าเดิมอีก

เมื่อรักษาด้วยเลเซอร์จะให้ประสบการณ์ ต่างจากในอดีตที่มีการใช้สเตียรอยด์ซึ่งหากกลับมาอีกเป็น จะมากกว่าเดิมและลุกลามไปทั้งตัว นอกจากนั้น แพทย์ยังมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ ให้เกิดระหว่างแพทย์กับคนไข้ ความใส่ใจอย่างแท้จริงนี้ ทำให้ช่วยกันคิดหาประเด็นใหม่ๆได้ ว่าสะเก็ดเงินในแต่ละที่ต้องหยุดพฤติกรรมอะไรจึงจะป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกได้ เช่น คนไข้บางรายเห็นความสำคัญของการหลีกเลี่ยงอาหารชนิดที่เขาแพ้จริงๆ เพราะเมื่อหายจนไม่เหลือรอยใดๆ เมื่อเกิดอาการใหม่ย่อมจะ สังเกตความเชื่อมโยงของปัจจัยเสี่ยงได้ง่ายขึ้น ความเข้าใจนี้นำไปสู่สถานภาพใหม่ของการรักษา คือ จากการ หายจากโรค เป็น หายสนิทจากโรค (สนิทนี้ ผมให้ความหมายว่า สนิทใจ นิ่งสนิท มีสติ จิตรับรู้ ที่ไปที่มา เหมือน อิทัปปัจจยตา) ความหมาย ของคำว่า หายสนิท จึงเป็นเช่นนี้ และนำไปสู่การหายขาดได้

      หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ที่นีตนาทคลินิก เราพบคนทั่วๆไป หาย หายสนิท และหายขาดได้ แต่ไม่ทุกคน แต่ใน 9 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ปีกว่าๆที่ผ่านมา ที่เรามี excimer เป็นตัวช่วยที่ดีกว่าเดิม ผมพบว่า ผมสนุกกับงาน และมีความหวังมากอย่างเป็นนัยสำคัญ ว่าจะทำประโยชน์ให้สังคมเพิ่มขึ้นไปได้อีก คิดถึง อาจารย์หลายๆท่านที่สอนผมมา และ Mr. Gillaspy ด้วยว่า ตอนนี้เรามีหนทางรักษาแล้ว เป็น เทคโนโลยีของตะวันตก และ ปรัชญาของตะวันออกมาผสานกัน

      ส่วนเรื่องที่กังวลว่าแสง excimer จะทำให้เกิดมะเร็งนั้น คลาดเคลื่อนกันไปใหญ่ เพราะ หากเราใช้ เพียงให้เกิดประโยชน์ ให้กลับสู่สภาวะธรรมได้ ก็ไม่ต้องตอกย้ำใช้ซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลัวได้ อนึ่งเป็นการคาดการเท่านั้นว่าแสง UVB เป็นต้นเหตุทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ความจริงแล้ว แสงแดดเป็นตัวที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังต่างหาก ที่กล่าวเช่นนั้น เพราะ ในแสงแดด มีแสงในช่วงคลื่นมากมาย ทำงานประสานกันอย่างสุดหยั่งคิด หากเปรียบง่ายๆเหมือนกระบวนการคอรัปชั่นที่ฝั่งรากลึก ย่อมทำให้เกิดปัญหา แต่ คนๆเดียวของกระบวนการเปรียบเหมือน แสง excimer ที่ช่วงคลื่น 308 เท่านั้นไม่ได้มีพิษสงอย่างแสงอาทิตย์หรอก และเมื่อลองมุ่งประเด็นไปที่เรื่องแสงอาทิตย์กับมะเร็ง เราเป็นมะเร็งผิวหนังก็เพราะเราตากแดดกันด้วยความสนุก ความหลงผิดซึ่งไม่ยอมหยุดเพราะเป็นความชอบที่หลงผิด ไม่ได้ตากแดดเพื่อรักษาโรค

ดังนั้นประเด็นเชื่อมโยงเรื่อง ตากแดดแล้วเป็นมะเร็งต้องระบุให้ชัดว่า คือ การตากแดดแบบไม่มีประโยชน์ต่างหาก ดังนั้น การใช้ excimer หากใช้แบบไม่มีประโยชน์ ก็ย่อมแน่นอนว่ากล่าวกันได้ท้วงกันได้ แต่ถ้าทำเพื่อประโยชน์ เช่น จะเดินตากแดดไปช่วยงานวัด งานบุญ ก็ทำเถอะ อย่าไปขัดขวางญาติโยม ว่าอย่าเลยเดี่ยวจะเป็นมะเร็งผิวหนังกัน เตือนแบบนี้ระวัง จะเป็นบาปกันเปล่าๆเขียนมายาว เพื่อให้เกิดประโยชน์ เข้าใจว่า การรักษาโรคสะเก็ดเงินที่ยากนี้ เอาทีละเรื่อง ทีละขั้น ทีละลำดับ คือ ไม่หาย เป็น บรรเทา เป็น หาย แล้วหายสนิท จนหายขาด ใครละจะทำได้ ลองคิดตรองดูครับ
รูป รอยสะเก็ดเงินที่เพิ่มเริ่มเกิดใหม่ในรอยเดิม

 

 

<< บทความทั้งหมด

Tweets by NetanartC

Tweets by Somnukamornsir2

Netanart Clinic