ปัจจุบันด้วยความมุ่งมั่นจะรักษาโรคสะเก็ดเงินให้หายขาดให้ได้ ทำให้นีตนาทคลินิกต้อง และเริ่มตระหนักเพิ่มว่าไม่ใช่เพียงเทคโนโลยีและความใส่ใจของทางคลินิกและแพทย์เท่านั้นที่ต้องทุ่มเทเต็มที่ แต่ทางฝ่ายผู้ป่วยเองจะต้องปรับสภาพตนเอง ตามความเป็นจริง อีก 2 อย่างคือ
1. การปรับทัศนคติในการมองโลกให้สดใสขึ้น
2. หาวิธีสื่อสารและ จัดระเบียบวิธีคิดและวิธีดำเนินชีวิตเสียใหม่
ผมอยากนำเสนอเพียง 2 ประเด็นนี้ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนที่ท่านจะไปทำการรักษา ณ สถานพยาบาลแห่งใดก็ตาม รวมถึงหากตัดสินใจจะมาขอคำปรึกษาที่นีตนาทสาขาใดก็ตามคนไข้ที่เป็นสะเก็ดเงินมานาน เกือบทั้งหมดจะมีความเข้าใจผิดว่า โรคนี้ไม่สามารถรักษารักษาให้หายสนิทได้ (จะขาดหรือไม่เป็นประเด็น ระยะเวลาที่โรคสงบ หากสงบได้นานเป็นปีๆ และเวลากลับมามีรอยเพียงเล็กน้อยและมีความสามารถในการจัดการได้อย่างรวดเร็ว ก็อาจจะเรียกว่าหายขาดได้)นอกจากนั้น วิธีการบรรเทาอาการคันหรือการอักเสบ ก็พึ่งแต่ยาทาหรือยารับประทาน ซึ่งไม่ได้ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้นมีแต่ทำให้ผิวแย่ลง ไม่เคยมีความรู้เรื่องการบรรเทาอาการคันด้วยการประคบให้ความชื้นกับผิวโดยตรง
ไม่เพียงแต่ความเข้าใจผิดในเรื่องโรคเท่านั้น แม้แต่จิตใจหรือทักษะในการสนทนาหาความรู้ เพิ่มเติมก็ถูกจำกัดเพราะ ไม่ค่อยได้พูดคุยกับคนมานาน มีความรู้สึกหดหู่ ห่อเหี่ยวเมื่อจะมีใครให้คำแนะนำ ก็จะเคยชินกับการหลบเลี่ยง ไม่ไว้ใจในเจตนาของผู้อื่นว่าจะเข้าใจตนจริงๆหรือ
ความไม่วางใจในตัวบุคคลนั้น ทำให้ต้องแสวงหาแต่ข้อมูลทาง internet ด้วยตนเองดังนั้นจึงมีข้อมูลมากที่สับสนปนเป เมื่อมาพบแพทย์จึงดูเสมือนว่า กว่าจะทำความเข้าใจในวิธีคิดแบบใหม่ๆนั้นจะยากกว่าคนทั่วไปที่มารักษาปัญหาความงามหรือโรคผิวหนังง่ายๆอื่นๆ ทุกคำถามจะเกี่ยวโยงพันกันกับสิ่งที่เคยเข้าใจมาครึ่งถูกครึ่งผิด จนต้องอาศัยความอดทนมากที่จะเชื่อมโยงจนเกิดความเชื่อมั่นในวิธีการรักษาแบบใหม่ ความเชื่อมั่นนี้สำคัญ ที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงและการรักษาที่จะให้ชีวิตใหม่ได้ บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงินจะเกิดจากความเครียดในครอบครัว ทำให้เป็นอุปสรรคเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่า เพราะ พื้นฐานความทุกข์ในครอบครัว และ ปัจจัยทางเศรษฐกิจก็จะบีบคั้นให้การฟังคำแนะนำจากหมอเป็นสภาวะที่สร้างความเครียดมากกว่าเดิม หากผู้ป่วยท่านใดได้รับการสนับสนุนและความเห็นใจจากครอบครัว สังเกตได้ว่า ผลของการรักษาจะได้ผลอย่างรวดเร็วอย่างเป็นนัยยะสำคัญความยากลำบากเหล่านี้ อาจจะเป็นเหตุที่แพทย์ผิวหนังทั่วไป ต้องเกิดความเบื่อหน่ายกับการทุ่มเทให้เกิดผล จึงเกิดการให้สเตียรอยด์ หรือให้ยา metrotrexate กันอย่างแพร่หลายและคล้ายคลึงกันเกือบ 100 % เพราะ ยอมแพ้กับอุปสรรคที่ดูเหมือนกับจะเต็มไปหมดในเส้นทางของการรักษาโรคเรื้อรังชนิดนี้
หากถามว่า ผมท้อไหม ก็ตอบว่ามีบ้าง แต่มีกำลังใจที่ดี คอยเตือนตัวเองว่า "สิ่งที่เป็นอุปสรรคเหล่านี้เป็น สิ่งที่ช่วยสร้างบุญกุศลได้มาก หากจิตใจของผมจะทุ่มเทแล้วพยายามช่วยเหลือให้สุดความสามารถ ไม่มีจิตใจดวงใด ไม่ชอบความเพลิดเพลินความง่าย แต่จิตใจที่จะพัฒนานั้น ทุกดวงต้องเกิดจากการแก้ปัญหาและฝ่าฟันกับอุปสรรรคที่ยาก"
ดังนั้น ในการแก้ปัญหาอื่นๆที่ง่ายๆ เช่นการรักษาความงามนั้น แม้จะง่ายและมีผลตอบแทนสูง แต่กลับเป็นสิ่งที่มีแต่จะเพิ่มโอกาสให้ทำบาปทำกรรมมากกว่าโอกาสที่จะเป็นการสร้างบุญนั้นก็พอมีบ้างแต่น้อยกว่ามาก หากเทียบกับการรักษาโรคสะเก็ดเงินและโรคผิวหนังที่ยากอย่างอื่นที่มีอุปสรรคดังที่พรรณาให้ทราบในข้างต้น
ขอให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน หากมาพบกันแล้ว ดูเหมือนว่า ผมจะดุ และเรื่องมากกับทุกท่านก็โปรดกรุณาเข้าใจว่า การรักษาที่จริงจังได้เริ่มขึ้นแล้ว คือ ท่านต้อง พัฒนาการสื่อสาร กระบวนการคิด การไม่อ่อนแอ ต้องปรับทัศนคติ และเมื่อพอทำได้ ผลการรักษาที่ดีย่อมจะตามมาติดๆและจะอยู่กับท่านนานที่สุด และ หรือจะอยู่กับท่านตลอดไป