<< บทความทั้งหมด

ร้อยไหมละลายยกกระชับหน้า

      
         ต้องออกตัวว่าไม่อยากเขียนบทความนี้เลย แต่มีผู้คนถามกันมาก และได้ตอบเป็นส่วนตัวให้หลายๆคน แต่คำตอบมีแนวคิดออกจะเป็นตรรกมากเลยคิดว่าคนฟังคงต้องการมีข้อความเอาไว้อ่านทบทวนความเข้าใจเลยต้องเขียน ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียที
1. เอาตามข้อเท็จจริงก่อน คือ ต้องได้ผลบ้างไม่มากก็น้อย ถึงได้มีความต้องการทำกันมาก และคงทำไม่ยากถึงได้มีคนให้บริการมากด้วย และราคาจริงๆแล้วต้นทุนคงถูกมากไม่เช่นนั้น คนให้บริการคงไม่สามารถเข้าถึง เพื่อตอบสนองประชาชน
2. ข้อคำนึง 
 2.1 จะได้ผลนานและดีจริงหรือ
 2.2 จะปลอดภัยหรือ
 
ทั้งสองคำถามคือ2.1และ2.2 นั้น ความจริงหากรออีกไม่นานก็จะทราบความจริง เพราะคนที่ทำและคนที่ให้บริการที่มีจิตใจช่วยเหลือคนไข้จริงๆคงจะออกมาเตือนกันแต่ที่สำคัญคือ หลายๆคนอยากให้ลองประเมินดู เหมือนทายฟุตบอลว่าใครจะชนะแทนที่จะรอผลการแข่งขัน ก็จะขอลอง แสดงความคิดเห็นดู อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ครับผมไม่ได้ทายผลถูกทุกครั้งไปจะได้ผลนานจริงหรือ

โดยส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าจริง เพราะหลักของการใช้ไหมละลายนั้นเราเอาไว้เย็บเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดเพื่อซ่อมแซมให้พออยู่กันไปได้ สังเกตได้จากหากเราผ่าตัดมดลูกแล้วเย็บผนังมดลูกอันนั้นจะอ่อนแอ ระวังแตกได้ง่ายจึงห้ามการตั้งครรภ์มากๆครั้ง จะเห็นว่าอ่อนแอกว่ามดลูกที่เหี่ยวย่นมีท้องมาหลายๆครั้งเสียอีก เพราะผนังที่ซ่อมจะเป็นพังผืดเสียมากกว่าเนื้อจริง 

 ดังนั้นผลที่ได้จากการร้อยไหมเป็นเพียงการหดตัวที่ให้เดาแล้วคงไม่ถึง10% ของเนื้อเยื่อผิวเพราะ หากการร้อยไหมโดยไม่ต้องผูกปมสามารถให้การกระชับผิวได้มากกว่า50% เราคงไม่ต้องผูกปมตอนเย็บแผล เพียงทิ้งไหมเอาไว้เฉยๆก็ได้ ไหมละลายที่ผลิตขึ้นมานั้นกำหนดให้ละลายใน 6 เดือนเพราะเวลา 6 เดือนผิวที่ขาดออกซิเจนตอนผ่าตัดที่เราใช้ไหมเย็บและผูกปมจะสามารถสร้างความแข็งแรงได้เกือบ50%

          ดังนั้นการหดตัวเพียง 10% นี้อาจจะทำให้เห็นผล แล้วจะอยู่นานเท่าใด   ผมเดาว่า1-2สัปดาห์ เพราะอะไรเพราะการหดตัวของผิวชั้นล่างที่มีใย elastic นี้มีไว้เพื่อให้ผิวชั้นบนที่ฉีกขาดสามารถประสานกันให้เร็วที่สุด ซึ่งปกติจะต้องใช้เวลาประมาณ1เดือนในการสร้างผิวชั้นนอก ทั้งชั้นแต่เมื่อมีใยโปรตีนของผิวชั้นบนบ้างแล้ว การหดตัวของผิวชั้นล่างก็หมดหน้าที่ ดังนั้นผมค่อนข้างมั่นใจว่าผลของการร้อยไหมจะหมดไปในเวลาเพียง2สัปดาห์ หรือมากที่สุดไม่เกิน1เดือนที่อ้างว่าผลจะได้ในระยะยาวเพราะมีการสร้างใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ตามแนวที่ได้ร้อยไหมไว้นั้นมีข้อโต้แย้งว่า ไม่น่าจะเป็นจริง หากเป็นจริงเราทำไมไม่คิดการใช้ไหมละลายไปเพิ่มเยื่อบุต่างๆเช่นเส้นเลือดเพื่อให้มีคอลลาเจนมาเกาะให้แข็งแรงและยืดหยุ่นดีขึ้น ตรงกันข้ามมีรายงานมากมายว่าตรงที่มีการตัดเย็บและมีไหมไปซ่อมจะอ่อนแอลงและ เปราะแตกง่ายทั้งนี้เพราะ เนื้อเยื่อที่มาซ่อมเป็น พังผืดที่ไม่มีความสมบูรณ์เท่ากับผิวเดิม

           ดังนั้นสำหรับคำถามที่ว่าจะปลอดภัยหรือไม่นั้น ตอบได้ดังนี้ในประเด็น ความสะอาด อันตรายอื่นๆ คิดว่าไม่มีปัญหาแต่ในระยะยาว น่าจะเป็นเทคนิคที่ไม่สามารถทำได้บ่อยครั้ง เพราะจะทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นพังผืดและหากมีแรงกระทำมากขึ้นก็จะมีพังผืดมากขึ้นเพื่อซ่อมแซมการฉีกขาดที่เกิดซ้ำๆไหมละลายไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยหรือละลายได้ด้วยตัวเอง ไหมละลายที่ไม่ได้ใช้อยู่ในห่อจะไม่ละลาย แต่เป็นเพราะ ร่างกายเราเห็นเป็นสิ่งแปลกปลอมเมื่อนำมาใส่ในร่างกายและจะขจัดด้วยการละลายมันทิ้ง การสร้างเนื้อเยื่อพร้อมไปกับการทำลายไหมนั้นเป็นสภาวะที่กดดันมากทีเดียวร่างกาย จึงต้องมีการเร่งการสร้างเนื้อเยื่อและเนื้อเยื่อต้องทนกับการละลายดังนั้นจึงไม่ใช่เนื้อเยื่อปกติ ไม่ได้มีคุณภาพดีกว่าเดิมดังที่มีการอธิบายกัน นอกจากนั้นอาจจะมีแนวโน้มว่าผิวหน้าของท่านอาจจะไวต่อการระคายเคืองมากขึ้นด้วยก็ได้ สังเกตได้จาก ผิวหน้าที่ติดสเตียรอยด์หากมีการร้อยไหมมาด้วย จะรักษาได้ยากกว่าการติดสเตียรอยด์ที่ผมเคยพบมากก่อน

         สำหรับผู้ที่หวังประโยชน์สั้นๆและไม่คิดมากในเรื่องระยะยาวเหมือนการฉีดสิวการกดสิว ที่แม้แต่หมอผิวหนังเองก็ยอมรับกัน ประเด็นนี้ก็ไม่หนักหนาอะไร ใครกล้ากดสิวเจาะสิวหรือใช้สเตียรอยด์ หากเทียบกับการใช้ไหมละลายแล้ว ผมว่าทำไปเถอะ ไม่ได้เสียมาตรฐานของท่านอย่างใดแต่สำหรับมาตรฐานของเรา การร้อยไหมเพื่อยกกระชับหน้าเราขอพิสูจน์อีกหน่อย  ขอดูไปก่อนแล้วกันยังไม่ทำครับ

 

 

<< บทความทั้งหมด

Tweets by NetanartC

Tweets by Somnukamornsir2

Netanart Clinic