ช่วงนี้น้ำประวัติศาสตร์กำลังไหลมาท่วมกรุงเทพมหานคร โดยได้ท่วมจังหวัดภาคเหนือมาตลอด 2 เดือนก่อนนี้แล้ว
ประเด็นเรื่อง น้ำกัดเท้าได้ถูกหยิบยกขึ้นมา เพราะ กำลังเป็นปัญหาสำหรับผู้โชคร้ายต้องอาศัยหรือเดินทางอยู่ในพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง มีบทสัมภาษณ์ของแพทย์หลายท่านแนะนำให้ทายาสเตียรอยด์หากมีอาการคันตามง้ามนิ้วเท้า หากมีอาการเล็กน้อย และให้รับประทานยาหรือทายาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราเมื่อมีอาการมากขึ้น
ผมเองเมื่อได้ฟังคำแนะนำเหล่านี้แล้วอดไม่ได้ ที่ต้องมาเขียนบทความ ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม
1. สำหรับการป้องกันให้หาผ้านุ่ม ตัดเป็นชิ้นยาวพอสมควร ( 10-20 เซนติเมตร) กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ชุบกับจารบีหรือ วาสเสอรีน หรือน้ำมันพืชก็ได้ แล้วนำมาพันโดยเน้นในซอกนิ้วเท้า แล้วผูกให้กระชับ แล้วใส่รองเท้าบูท หรือ หากจะใส่รองเท้ายางอย่างอื่นก็ได้ จะสามารถป้องกันน้ำกัดซอกนิ้วเท้าได้ เหมือนการยาซิลิโคน ตามซอกรอยแตกเพื่อกันน้ำกัดเซาะ
2. เมื่อกลับบ้านหรือไปที่ทำงาน เอาผ้าพันนี้ออก แล้ว ทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำ สะอาด แล้ว โรยแป้งเพื่อดูดความชื้น
3. ทา Zinc paste หรือ โรยแป้งให้ทั่วเพื่อลดความชื้นที่ยังมีมาก
4. ห้ามทายาสเตียรอยด์ ถ้าหากคัน แต่ให้เว้นจากการแช่น้ำสัก 1-2 วัน หากคันมากให้ทาวาสเสอลีนหนาๆ หรือ zinc paste ไว้ เมื่อผิวหนังกำพร้าหนาขึ้นมาใหม่จึงเดินลุยน้ำได้อีก (หาทางสลับกับคนในบ้านเรื่องการเดินลุยน้ำเพื่อทำกิจกรรมระหว่างรอน้ำลด)
5. หากเป็นแผล ให้ทำแผลเหมือนแผลทั่วๆไป เช่น ทาแอลกอฮอล หรือ เบทาดีน และห้ามถูกน้ำเด็ดขาด หากมี zinc paste ก็ใช้ได้เหมือนกัน
ผมเองก็ได้แผลเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 23 ขณะเดินลุยน้ำที่รั่วมาจากคลองประปา เพราะพื้นฟุตบาทไม่เรียบ อิฐตัวหนอนพลิก ทำให้ได้แผล พอมาถึงคลินิกก็รีบทำแผลด้วย alcohol และปิดแผลด้วย zinc paste แผลหายดีใน 4 วันทั้งๆที่แผลมีเลือด